กลับมาพบกันในคอลัมน์ เรื่องจริงจากคดี อีกครั้ง หนึง่งครับ วันนี้ขอนำเสนอ คดีแรงงานครับ เรื่องนี้มีเกิดสาเหตุเนื่องมาจาก ลูกจ้างส่วนหนึ่งในโรงงานของนายจ้าง ไม่พอใจนายจ้าง ที่ได้เพิ่มเวลาในการทำงานออกไปอีกเป็นเวลา ๑ ชั่วโมง จากเดิมที่มีเวลาทำงานปกติอยู่แล้ว ๘ ชั่วโมงเป็น ๙ ชั่วโมง
ต่อมาหลังจากนั้น ลูกจ้างบางส่วนนั้นก็ได้เริ่มทำการยื่นข้อเสนอเรียกร้องต่อ นายจ้างเพื่อให้กลับมาใช้กำหนดเวลาใรการทำงานตามเดิมคือ ๘ ชั่วโมง แต่นายจ้างได้ปฎิเสะ ที่จะดำเนินการข้อเรียกร้องของลูกจ้าง พร้อมกันนั้น นายจ้างยัง ได้ดำเนินกา ออกหนังสือเตือนเป็นประกาศ ติดหน้า ที่ทำงานว่า ให้ลูกจ้างทุกรายปฎิบัติตาม หากฝ่าฝืนอาจถูกเลิกจ้าง
แต่สุดท้าย ลูกจ้างก็นัดหยุดงานกันขึ้น โดยเป็นการใช้สิทธิตามพรบ.แรงงานสัมพันธ์ทุกประการ สุดท้ายเรื่องไปถึงพนักงานแรงงานสัมพันธ์ เข้าไปไกล่เกลี่ย เรื่องราวการนัดหยุดงานจึงสงบลง แต่ ๑ เดือน ต่อมาหลังจากเรื่องสงบลง นายจ้างมีคำสั่งเลิกจ้าง ลูกจ้างทุกรายที่เข้าร่วมในการหยุดงาน สุดท้าย ลูกจ้างเหล่านั้นจึงรวมตัวกันฟ้องนายจ้างว่า เลิกจ้างโดยไม่เป็นธรรมเนื่องจาก เลิกจ้างลูกจ้างที่เข้าร่วมชุมนุมนัดหยุดงาน
สุดท้ายเรื่องนี้ ศาลฎีกา ตัดสินว่า การเลิกจ้างของนายจ้าง ถึงแม้จะกระทำได้ แต่เหตุที่เลิกจ้างนั้น ต้องเป็นเหตุตามที่กฎหมาย กำหนดเอาไว้ กรณีนี้การเลิกจ้างเห็นได้ว่าเกิดจาการที่ลูกจ้างที่ถูกเลิกจ้างทำการนัดหยุดงานซึ่งเป็นการใช้สิทธิตามกฎหมาย ดังนั้นนายจ้างจึงทำการเลิกจ้างโดยเหตุที่เป็นไม่ธรรม
เรื่องนี้จึงเตือนใจ นายจ้างได้เป็นอย่างดีครับว่า ไม่ควรจะทำอะไรที่เป็นการเอาเปรียบลูกจ้างมากเกินไปครับ สวัสดีครับ
โดย ทนายความ,ทนาย,ปรึกษากฎหมาย,สำนักงานทนายความ,สำนักงานกฎหมาย