นิติบุคคลอาคารชุดเรียกเก็บเงินค่าส่วนกลางจากผู้อยู่อาศัยในหมู่บ้าน โดยนำเงินค่าส่วนกลางที่ได้รับชำระมานั้น ไปบำรุงและซ่อมแซมทรัพย์ส่วนกลางต่างๆซึ่งตั้งอยู่ในอาณาเขตบริเวณที่ตั้งหมู่บ้านแห่งนั้นเพื่อประโยชน์ของผู้อยู่อาศัยในหมู่บ้านทุกคน ต่อมานิติบุคคลหมู่บ้านถูกเจ้าหน้าที่สรรพการเรียกประเมินภาษีเพราะ ถือว่า นิติบุคคลหมู่บ้าน เป็นผู้ให้บริการซึ่งมีรายรับเกินปีละ ๑,๘๐๐,๐๐๐ บาทต่อปีจ้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มแต่ไม่ได้จด และเป็นผู้ประกอบการให้บริการของตนเองแก่ตนเองโดยกรรมการเป็นผู้ได้ประโยชน์จากการให้บริการนั้นคือได้ใช้ทรัพย์ส่วนกลางในหมู่บ้านด้วย การประเมินภาษีนี้ถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่
– เงินที่นิติบุคคลได้รับมานั้นเป็นเงินที่กฎหมายบังคับให้ผุ้อาศัยในหมู่บ้านจ่ายค่าส่วนกลางแก่นิติบุคคลมิใช่นิติบุคคลบังคับให้จ่ายเพื่อที่นิติบุคคลจะนำเงินนั้นไปใช้หากำไรอย่างอื่นๆได้แต่อย่างใด นอกจากนี้เงินที่ได้ก็นำไปบำรุงทรัพย์ส่วนกลางของหมู่บ้านจึงไม่ถือว่า นิติบุคคลหมู่บ้านเป็นผู้ประกอบกิจการที่ต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มแต่อย่างใด สำหรับการใช้บริการของตนเองที่จะถือว่าตนเองเป็นผู้ให้บริการนั้น เมื่อนิติบุคคลจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลแยกตัวออกมาต่างหากจากผู้อยู่อาศัยในหมู่บ้านแล้ว การเรียกเก็บเงินจากผู้อยู่อาศัยเพื่อนำมาบำรุงดูแลทรัพย์ส่วนกลางตามกฎหมายนั้น จึงไม่ใช่กรณีที่เป็นการใช้บริการของตนเองไม่อยู่ในความหมายของคำว่าให้บริการ
Advertisements